- ประวัติสายพันธุ์ ปอมเมอเรเนียน
ปอม เมอเรเนียนสืบเชื้อสายมาจากสุนัขลากเลื่อนแถบไอซ์แลนด์และแลปแลนด์ อาจจะสงสัยว่าเป็นสุนัขลากเลื่อนแต่ทำไมตัวกะจึ๋งเดียว อาจเป็นเพราะว่าได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้กลายเป็นสุนัขขนาดเล็ก เพื่อเลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อนมากกว่าจะเอาไว้ใช้งาน เพราะจริง ๆแล้วปอมเมอเรเนียนตัวใหญ่ๆ สามารถใช้เป็นสุนัขเฝ้าฝูงแกะยังได้ แถมยังมีหลักฐานว่าตอนแรกๆ ที่มาถึงอังกฤษ (ราวกลางศตวรรษที่๑๙) พ่อพันธุ์แม่พันธุ์บางตัวหนักถึง ๓๐ ปอนด์ แลดูคล้าย German wolf spitz ทั้งขนาด ลักษณะขน รวมทั้งสีขนด้วย เดิมคนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักปอมเมอเรเนียนกันนัก จนกระทั่งปีค.ศ.๑๘๗๐ Kennel Club แห่งอังกฤษได้เปิดตัวแนะนำสุนัขพันธุ์นี้ และยิ่งดังใหญ่เมื่อปีค.ศ.๑๘๘๘ ควีนวิคตอเรียแห่งอังกฤษเกิดไปตกหลุมรักมันเข้าที่ยุโรป ถึงกับพากลับมาที่อังกฤษด้วย ในสมัยนั้นสาวๆ มักเลียนแบบแฟชั่นและกิจกรรมจากราชสำนัก การเลี้ยงปอมเมอเรเนียนจึงแพร่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง มีเรื่องเล่ากันว่าควีนวิคตอเรียทรงโปรดสุนัขพันธุ์นี้มาก แม้กระทั่งวันที่สิ้นพระชนม์ยังทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้เอาเจ้า Turi สุนัขปอมเมอเรเนียนตัวโปรดมาไว้ข้างพระแท่นบรรทม และเจ้า Turi นี้ก็ได้นอนเฝ้าอยู่จนควีนสิ้นพระชนม์ นอกจากนี้พระองค์ยังได้รับการยกย่องว่าทรงเป็นผู้ที่ทำให้สาธารณชนรู้จักและ นิยมเลี้ยงปอมเมอเรเนียนตัวเล็ก สำหรับในอเมริกา สุนัขพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ถูกนำมาโชว์ครั้งแรกในปีค.ศ.๑๘๙๒ แต่ยังไม่ได้รับการกำหนดชัดเจนว่าจะให้อยู่ในกลุ่มสุนัขชนิดไหน จนกระทั้งปี ค.ศ.๑๙๐๐ จึงได้มีการกำหนดกันที่นิวยอร์ค และในปีค.ศ.๑๙๑๑ ก็มีงานโชว์สุนัขพันธุ์นี้เป็นครั้งแรกโดย American Pomeranian Club ในช่วงแรก ๆ ปอมเมอเรเนียนที่ชนะการประกวด ส่วนใหญ่จะกระดูกหนา หูใหญ่ และน้ำหนักต่ำกว่า ๖ ปอนด์โดยประมาณ ขนให้สัมผัสที่ดีแต่ไม่ฟูมากเท่าปัจจุบัน ปอมเมอเรเนียนที่ได้มาตรฐานตามกำหนดในปัจจุบันจะต้องมีขนาดเล็ก (น้ำหนักประมาณ 3-7 ปอนด์) ผู้ที่พัฒนาสายพันธุ์จนมีขนาดเล็กลงได้อย่างนี้คือ นักผสมพันธุ์สุนัขชาวอเมริกา จึงไม่น่าแปลกใจที่ปอมเมอเรเนียนสายพันธุ์จากอเมริกาได้รับการยอมรับให้เป็น The best เกียรติประวัติครั้งสำคัญคือเมื่อ Ch. Pall Mall His Majesty นำปอมเมอเรเนียนสายพันธุ์จากอเมริกาเข้าประกวดที่ยุโรป ก็ได้รับรางวัล Best in Show มาหลายต่อหลายครั้ง นอกจากนี้ยังคว้ารางวัลเกียรติยศสูงสุดจากการประกวดกับสุนัขทุกสายพันธุ์รวม กันทั้งหมดอีกด้วย ด้วยความที่ตัวเล็ก เชื่อง หากแต่ร่าเริงและแข็งแรง ทำให้ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงกันไว้เป็นเพื่อนคู่ใจไปทั่วโลก
มาตรฐานสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนลักษณะทั่วไป
เป็นสุนัขขนาดเล็กกะทัดรัด หลังสั้น มีขนสองชั้น ขนชั้นในจะนุ่มหนา ส่วนขนชั้นนอกจะหนา ยาว และค่อนข้างฟู ให้สัมผัสหยาบกว่าขนชั้นในเล็กน้อย หางก็มีขนยาวหนาเช่นกัน โคนหางตั้งอยู่สูงและทอดยาวย้อนมาบนหลัง ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่มีท่าทางกระตือรือร้น เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง แสดงออกถึงความเฉลียวฉลาดและมักมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเคลื่อนไหวจะดูเอาจริงเอาจัง มีอำนาจ และแข็งแรงมั่นคง
ขนาด สัดส่วนและโครงร่าง โดยเฉลี่ยจะหนักประมาณ 3-7 ปอนด์ แต่ถ้าใช้ในงานโชว์ก็มักจะอยู่ที่ 4-6 ปอนด์ ในการประกวดนั้น ถ้าสุนัขตัวใดมีน้ำหนักสูงหรือต่ำกว่านี้ต้องตกรอบทันที แต่กระนั้นก็ควรพิจารณาคุณลักษณะโดยรวมเป็นสำคัญมากกว่าขนาดของสุนัข ในแง่ของสัดส่วน ถ้าเปรียบเทียบความยาวจากไหล่ถึงบั้นท้าย ต้องสั้นกว่าความยาวจากจุดสูงสุดของไหล่ถึงพื้นเล็กน้อย ส่วนความยาวจากอกถึงพื้นต้องยาวเป็นครึ่งหนึ่งของระยะจากจุดสูงสุดของไหล่ ถึงพื้น ปอมเมอเรเนียนมีโครงร่างไม่เล็กไม่ใหญ่ ขาทั้งสี่ก็ไม่สั้นหรือยาวเกินไปจนทำให้โครงร่างดูเสียสมดุล ในการแข่งขันถ้ากรรมการเข้าตรวจ สุนัขต้องรู้สึกสงบ มั่นคง
หัว
หัว ต้องได้สัดส่วนสมดุลกับลำตัว ช่วงปากและจมูก (muzzle) ค่อนข้างสั้นและตรง ดูสวยงาม ริมฝีปากไม่ห้อยย้อย จมูกไม่แหลมชี้จนดูไม่มีมิติ ลักษณะของหัวทำให้ดูรู้สึกว่าเป็นสุนัขที่กระตือรือร้น หรืออาจเทียบเคียงได้กับสุนัขจิ้งจอกเลยทีเดียว กะโหลกปิด ส่วนบนค่อนข้างกลมแต่ไม่ถึงกับโค้งเป็นรูปโดม เมื่อมองจากด้านหน้าและด้านข้างจะเห็นหูเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่สูงและตั้งชันอยู่เสมอ ถ้ามองจากปลายจมูกขึ้นไปยังดวงตาจนถึงปลายหูทั้งสองจะต้องเห็นเป็นแนวรูปตัว V ตาสีเข้ม เป็นประกาย ดวงตาเป็นรูปอัลมอนด์ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สุนัขพันธุ์นี้ต้องมีจมูกและขอบตาสีดำ ส่วนขนอาจเป็นสีน้ำตาล น้ำเงิน หรือสีผสมระหว่างขาว เทา น้ำตาล และดำ (เรียกว่า Beaver) ฟันบนครอบฟันล่างสนิทพอดี โดยที่ฟันบนไม่ยื่นเหยินออกไป ถ้ามีฟันเกสักหนึ่งซี่ก็ไม่เป็นไร ข้อบกพร่องสำคัญ กะโหลกกลมเป็นรูปโดม ฟันบนหรือฟันล่างเหยินออกจนฟันทั้งสองแถวสบกันไม่สนิท คอ แนวสันหลังและลำตัว คอสั้น แต่ตั้งอยู่บนไหล่ในตำแหน่งที่เหมาะสม พอจะทำให้สามารถยกหัวขึ้นตั้งสูงได้อย่างสง่างาม หลังสั้น เส้นแนวหลังตรง ลำตัวขนาดกะทัดรัด ซี่โครงกางออกพอดีโดยมีพื้นอกยาวมาจดข้อศอก หางของปอมเมอเรนียนเป็นลักษณะเด่นเฉพาะของสายพันธุ์นี้ หางต้องวางแนบตรงอยู่กับแนวหลัง
ลำตัวส่วนหน้า
ไหล่ และขามีกล้ามเนื้อแข็งแรงพอสมควร โดยเฉพาะไหล่นั้นต้องแข็งแรงพอที่สุนัขจะตั้งหัวเชิดสูงได้ กระดูกไหล่กับขาท่อนบนยาวเท่ากัน ขาหน้าตรงและขนานกัน วัดความยาวจากจุดสูงสุดของไหล่ถึงข้อศอกจะยาวเท่ากับข้อศอกจดพื้น ข้อเท้าตรงและแข็งแรง เท้าโค้ง มีขนาดกะทัดรัด ไม่หุบเข้าหรือกางออก ยืนได้อย่างมั่นคง นิ้วติ่งอาจตัดทิ้งได้ ข้อบกพร่องสำคัญ ข้อเท้าห้อย ไม่แข็งแรงการย่างก้าว เดินได้อย่างเป็นอิสระ ไม่สะดุดขัด ได้สมดุลและสง่างาม ขาหน้าก้าวเหยียดออกไปได้สุด ในขณะที่ขาหลังก็มีแรงส่งผลักให้ลำตัวเคลื่อนไปข้างหน้าได้เต็มที่ ขาหลังก้าวไปในแนวเดียวกันกับขาหน้าแต่ละข้าง ในการทรงตัวเมื่อเคลื่อนไหว สุนัขจะก้าวขาเข้ามาใต้ลำตัว ขณะเดินหรือวิ่งแนวสันหลังต้องยังคงเป็นเส้นตรง รูปร่างไม่บิดเบี้ยวและเคลื่อนไหวอย่างได้สมดุลดี
ลำตัวส่วนหลัง
ลำ ตัวส่วนหลังได้สมดุลกับลำตัวส่วนหน้า โคนขามีกล้ามเนื้อแข็งแรงแต่ไม่หนาหนัก เข่างอพอสมควรและเห็นแนวเข่าได้ชัด ข้อศอกขาหลังตั้งฉากกับพื้น ขาทั้งสองตรงและขนานกัน เท้าหลังมีลักษณะเหมือนเท้าหน้าดังที่ได้กล่าวไปแล้ว นิ้วติ่งอาจตัดทิ้งได้เช่นกัน ข้อบกพร่องสำคัญ ขาหลังโก่ง ขาหรือข้อศอกหลังไม่แข็งแรง
ขน
ลักษณะพิเศษของปอมเมอเรเนียนคือ มีขนสองชั้น ขนชั้นในอ่อนนุ่ม หนา ขนชั้นนอกยาว ตรง มันวาวแต่ให้สัมผัสหยาบ เนื่องจากขนชั้นในหนามากจึงทำให้ขนชั้นนอกไม่ลู่แนบติดกับลำตัว จึงดูเป็นขนที่ยาวและฟู ขนที่ลำตัวส่วนหน้าจะยาวลงมาจากคอ ไหล่ และอก ขนที่หัวและขาจะสั้นกว่า ขนที่ลำตัวส่วนหลังจะยาวไปจนถึงข้อศอกขาหลัง หางก็มีขนตรง ยาว หยาบและหนาเช่นกัน การเล็มขนเพื่อความสะอาด และแลดูเป็นระเบียบสามารถทำได้ ข้อบกพร่องสำคัญ ขนชั้นนอกนุ่ม ลีบ ขนบางหรือร่วงจนมองเห็นผิวหนังได้
สี
นิสัยและอารมณ์
ปอมเมอเรเนียนไม่ใช่สุนัขประเภทเก็บเนื้อเก็บตัว หากแต่ชอบแสดงออก ฉลาดเฉลียว ร่าเริง ทำให้เหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนหรือจะเลี้ยงไว้ประกวดก็ได้ ในการประกวด สุนัขจะต้องมีลักษณะดังที่กล่าวมาข้างต้นทุกประการ หากมีลักษณะใดผิดไปจากกำหนดจะต้องถูกหักคะแนนตามความเหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น